ผลสำรวจเผยให้เห็นว่า ‘การสร้างภาพลักษณ์นายจ้างเชิงกลยุทธ์’
คือหัวใจในการดึงดูดและรักษาคนเก่งในยุคเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา “การทรานส์ฟอร์มพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ” (business portfolios) กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลักที่หลายองค์กรต้องเผชิญคือการสรรหาและรักษาทรัพยากรบุคคลที่เหมาะสมในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ โดยผลสำรวจล่าสุดจาก เอบีมคอนซัลติ้งภายใต้หัวข้อ “The Importance of Employer Branding as Seen from the Fact-finding Survey on Business Portfolio Transformation and Attractiveness of Human Capital Both Internally and Externally” ชี้ให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ Employer Branding หรือการสร้างแบรนด์นายจ้างในการดึงดูดและรักษาบุคลากรทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร โดยผลสำรวจเน้นย้ำว่าองค์กรที่มีการผสานกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ภายในและภายนอกอย่างสอดคล้องกันจะมีความสามารถสูงกว่าในการดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะได้ตรงความต้องการ
การสำรวจนี้ครอบคลุมผู้บริหารระดับสูงในสายงานทรัพยากรบุคคลและแผนงานองค์กรจำนวน 301 คน จากบริษัทญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 50,000 ล้านเยน ผลพบว่า 85.7% ขององค์กรเห็นว่าการทรานส์ฟอร์มพอร์ตโฟลิโอธุรกิจเป็นกลยุทธ์สำคัญ แต่ 92.7% กลับประสบปัญหาในการจัดหาบุคลากรทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ โดยมีเพียง 12% เท่านั้นที่ระบุว่ามีบุคลากรที่มีทักษะเพียงพอ และมีเพียง 21.2% ของบริษัทที่อยู่ในช่วงเติบโตเท่านั้นที่เชื่อมั่นในคุณภาพของทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่

แม้หลายองค์กรจะตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรที่มีทักษะสูง แต่กลับประสบปัญหาในการดึงดูดคนเก่งเข้าสู่องค์กรโดยสาเหตุหลักมีสองประการได้แก่การขาดแคลนตลาดแรงงานและการขาดการสร้างภาพลักษณ์นายจ้างที่น่าสนใจ ซึ่งองค์กรที่สามารถสื่อสารจุดแข็งของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งภายในและภายนอก มักจะประสบความสำเร็จในการดึงดูดบุคลากรคุณภาพ
จากการศึกษาของ เอบีมคอนซัลติ้งพบปัจจัยสู่ความสำเร็จ 3 ประการในการดึงดูดทรัพยากรบุคคลที่เหมาะสม โดยประการแรก องค์กรต้องมีกลยุทธ์การสร้างแบรนด์นายจ้างแบบบูรณาการเพื่อสร้างความดึงดูดทั้งกับพนักงานปัจจุบันและผู้สมัครภายนอก ซึ่งในอดีตองค์กรจำนวนมากมักแยกการสร้างแบรนด์ภายใน (เน้นสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน) และการสร้างแบรนด์สำหรับการสรรหาคนภายนอกออกจากกัน ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพลดลง อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจพบว่า 75.1% ขององค์กรเริ่มตระหนักถึงความจำเป็นของแนวทางแบบบูรณาการ ประการต่อมาคือองค์กรต้องมีมาตรการสร้างความผูกพันที่แท้จริงกับพนักงาน แม้หลายแห่งจะพยายามดำเนินการในจุดนี้แล้ว แต่ผลสำรวจชี้ว่า 13.6% ของฝ่ายทรัพยากรบุคคลเท่านั้นที่เชื่อว่ามาตรการเหล่านั้นมีผลจริง และสุดท้ายก็คือการที่องค์กรต้องสามารถสื่อสารความน่าสนใจของตนออกสู่ภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในตลาดแรงงานระดับกลางถึงสูงที่มีประสบการณ์ในการทำงานมานาน
ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า แนวคิด Employer Branding หรือการสร้างแบรนด์นายจ้างนั้น กำลังทวีความสำคัญในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่แพร่หลายในยุโรปและสหรัฐอเมริกามาแล้ว การสร้างภาพลักษณ์นายจ้างคือการถ่ายทอดภาพลักษณ์องค์กรในฐานะสถานที่ทำงานที่น่าทำงานทั้งต่อบุคลากรภายในและผู้สมัครภายนอก องค์กรที่สามารถสื่อสารคุณค่าและวัฒนธรรมองค์กรไปยังตลาดแรงงานได้อย่างชัดเจน จะมีศักยภาพสูงในการดึงดูดและรักษาคนเก่งไว้อย่างยั่งยืน โดยการพัฒนาแบรนด์นายจ้างที่ชัดเจนยังช่วยให้องค์กรสามารถกำหนด Employee Value Proposition (EVP) หรือคำสัญญาที่องค์กรมีต่อพนักงานได้อย่างตรงประเด็น ซึ่ง EVP นี้ควรถูกสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ ทั้งช่องทางภายในและภายนอก
เพื่อสร้างแบรนด์นายจ้างที่แข็งแกร่ง เอบีมคอนซัลติ้ง แนะนำ 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การกำหนดจุดยืนในฐานะสถานที่ทำงานที่น่าดึงดูด โดยต้องชี้ให้เห็นว่าองค์กรมีความพิเศษและมีคุณค่าอย่างไรต่อพนักงาน EVP ควรตอบคำถามหลักว่าทำไมพนักงานจึงควรทำงานที่นี่ แทนที่จะไปทำงานที่อื่น ขั้นตอนถัดมาองค์กรต้องพัฒนาโปรแกรมที่สนับสนุน EVP ที่กำหนดไว้ด้วยการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และสร้างความผูกพันที่แท้จริงกับพนักงาน และขั้นตอนสุดท้ายคือการสื่อสาร EVP ไปยังภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมองค์กร โอกาสในการเติบโต พร้อมแสดงความใส่ใจและความมุ่งมั่นต่อพนักงาน องค์กรจึงสามารถดึงดูดบุคลากรคุณภาพจากตลาดแรงงานภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เอบีมคอนซัลติ้ง ยังได้ยกตัวอย่างองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์นายจ้าง เช่น ธุรกิจร้านอาหารที่มีเครือข่ายขนาดใหญ่ ที่ใช้ EVP ที่เน้นการเสริมพลังให้ลูกค้า การเติบโตของพนักงาน และการยอมรับในคุณค่า ซึ่งช่วยให้สามารถดึงดูดคนเก่งจากทั้งภายในและภายนอก ขณะที่ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์รายใหญ่ ที่ใช้ EVP ที่เน้นการเล่าเรื่องของงานที่มีคุณค่าและมีจุดมุ่งหมาย วัฒนธรรมการทำงานที่สร้างแรงบันดาลใจ และผลตอบแทนที่ดึงดูด ซึ่งล้วนส่งผลให้สามารถดึงดูดแรงงานมืออาชีพที่มีทักษะสูงและรักษาความภักดีของพนักงานไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยสรุปผลสำรวจของเอบีมคอนซัลติ้งตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของ Employer Branding ต่อการทรานส์ฟอร์มธุรกิจองค์กรที่สามารถผสานการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกสร้าง EVP ที่ชัดเจนและถ่ายทอดความน่าสนใจของตนออกไปอย่างสม่ำเสมอจะมีโอกาสสูงในการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่จำเป็นต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในขณะที่โลกธุรกิจยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องการมีแบรนด์นายจ้างที่แข็งแกร่งจะยิ่งทวีความสำคัญและ ABeam Consulting พร้อมสนับสนุนให้องค์กรต่างๆพัฒนากลุทธ์ Employer Branding เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในระยะยาวด้วยแบรนด์ที่เข้าถึงทั้งใจพนักงานและผู้สมัครงานรุ่นใหม่.
