Headlines

“แสนสิริ” ยืนหยัด 40 ปีพลเมืองดีของประเทศชูบทบาทเอกชนยุคใหม่สร้างต้นแบบโครงการนำไปใช้ได้จริงไม่ใช่เพียง “ผู้บริจาค”

นอกจาก แสนสิริ จะโดดเด่นในฐานะหนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของไทย เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในภาคการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อีกหนึ่งความโดดเด่นคือ ความมุ่งมั่น ยืดหยัดในพันธกิจของการเป็นองค์ธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นพลเมืองดีของประเทศ (Good Citizen) มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี

สมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff บริษัทแสนสิริจำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หนึ่งในแกนหลักการทำงานด้าน ESG ของแสนสิริมากว่า 40 ปี คือการดูแล4 เสาหลักได้แก่ลูกค้าพนักงานคู่ค้าและสังคม
ตอกย้ำแนวคิดมุ่งสร้างทุกวันให้ยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อสังคมที่ดี ชุมชนแข็งแรง  

ในส่วนของสังคมแสนสิริได้มีการการสนับสนุนกิจกรรมโครงการเพื่อตอบแทนสังคมหลากหลายรูปแบบโดยยืนอยู่บนหลักการสำคัญไม่ใช่ผู้บริจาค ไม่เน้นการเพิ่มจำนวนกิจกรรม แต่จะให้ความสำคัญกับ การสร้างต้นแบบที่ประเทศนำไปใช้ได้จริง ร่วมกับภาครัฐ, ชุมชน รวมถึงองค์กรพันธมิตรเพื่อร่วมหาทางออกของปัญหาที่แท้จริง ตามแนวคิด No One Left Behind แสนสิริไม่ทอดทิ้งใครต้องไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

อาทิ เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ได้ระดมทีมวิศวกรและพารต์เนอร์ของบริษัทให้ความช่วยเหลือลูกบ้านล่าสุดภัยธรรมชาติน้ำท่วมใหญ่ที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา โดยแสนสิริเป็นหนึ่งในผู้รวบรวมจุดให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก เบอร์โทร ศูนย์พักพิงและจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังได้นำเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่นี้ มาเป็น “กรณีศึกษา” เพื่อพัฒนาแผนรับมือและยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะมิติการขาดแคลนไฟฟ้า สภาวะที่ยานพาหนะไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยว และข้อจำกัดด้านการสื่อสาร นับเป็นการออกแบบเชิงระบบเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว   

ส่วนสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานีที่ยังมีความอ่อนไหว แสนสิริได้นำความเชี่ยวชาญด้าน เทคโนโลยีการก่อสร้างระดับสูงมาพัฒนาและส่งมอบ บังเกอร์นวัตกรรม โดยใช้แผ่นกรีนพรีคาสท์ (Green Precast) ซึ่งเป็นแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปเสริมเหล็กที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้มีความทนทานต่อแรงกระแทกสูง สามารถรับมือกับแรงสั่นสะเทือนหรือแรงระเบิดในระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ มอบให้แก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้าของประเทศในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเป็นเกราะเสริมความปลอดภัย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจิตอาสาแสนสิริยังได้ร่วมบริจาคโลหิตกับสภากาชาดไทยเพื่อสำรองโลหิตให้แก่โรงพยาบาลและผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออีกด้วย

ในภาคการเกษตร ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของประเทศ แสนสิริได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำนำร่องรับซื้อมังคุดจากเกษตรกรในจังหวัดนครศรีธรรมราช กว่า 40 ตัน ในช่วงที่ผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เป็นสะพานเชื่อมเกษตรกรและผู้บริโภค ส่งต่อผลไม้สู่ผู้บริโภคโดยตรง อาทิ ลูกบ้านในโครงการของแสนสิริ, แสนสิริคอมมูนิติ้ และชุมชนโดยรอบโครงการของแสนสิริ ที่ผ่านมายังจัดกิจกรรม ของดีต้องไปต่อบรรทัดทอง In Sansiri Community” สร้างโอกาสให้ร้านอาหารขนาดเล็กในตำนานได้กลับมาเสิร์ฟความสุขได้อีกครั้ง ผ่านพื้นที่ในโครงการและคอมมูนิตี้ต่างๆ ของแสนสิริ โดยแสนสิริมองว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่การให้พื้นที่เพื่อประกอบธุรกิจ แต่เป็นการส่งต่อความรักและความห่วงใย “ช่วยเหลือคนตัวเล็กที่มีศักยภาพให้ไปต่อในช่วงภาวะเศรษฐกิจเปราะบาง  

ด้านการสร้าง ความเสมอภาคทางการศึกษา แสนสิริเข้าไปร่วมแก้ปัญหา “เด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา” รวมถึง “เด็กไร้สัญชาติ” ให้ได้รับการศึกษา ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศในอนาคต ภายใต้โครงการ “Zero Dropout : เด็กทุกคนต้องได้เรียน โดยร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. นำร่องที่จังหวัดราชบุรี เพื่อหวังเป็น “โมเดลต้นแบบ” ป้องกันไม่ให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา ด้วยการสร้างกลไกติดตามและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดช่วง พ.ศ. 2565–2568 โครงการ Ratchaburi Zero Dropout สามารถช่วยเหลือ เด็กและเยาวชนในและนอกระบบการศึกษาแล้วกว่า 13,000 คนผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ, ทุนรอยต่อ ป.6, ม.3, อาสาสมัคร 3 พลัง, ศูนย์การเรียนสร้างโอกาส, โมเดลชีวิตเด็กนอกระบบ และ Learn to Earn กับสถานประกอบการในพื้นที่  

นอกจากนี้ ในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการศึกษา ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ระหว่างภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษา  แสนสิริได้ลงนามร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อออกแบบการเรียนการสอนตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจ  

อีกภาพสะท้อนการพัฒนาสังคมคือโครงการ แสนสิริอะคาเดมี พื้นที่เรียนรู้นอกห้องเรียนที่เปิดให้ชุมชนใช้จัดกิจกรรมร่วมกัน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกมิติ

และนี่คือส่วนหนึ่งของกิจกรรมโครงการที่แสนสิริร่วมขับเคลื่อนในรอบปี 2568 โดยผนึกกำลังกับพันธมิตรทำให้การดำเนินการรวดเร็วราบรื่นและมีประสิทธิภาพเพื่อร่วมกันออกแบบทางออกเชิงระบบสร้างต้นแบบโครงการที่นำไปใช้ได้จริงในหลากหลายภารกิจร่วมกันคนละไม้คนละมือต่อเป็นจิ๊กซอว์ใหญ่สะท้อนภาพการเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ (Good Citizen)  

และในช่วงท้ายปีนี้ อยากชวนทุกคนร่วมกิจกรรม Christmas of Sharing เพื่อร่วมส่งต่อสิ่งของจำเป็นและของใช้ที่ยังมีคุณค่าได้เดินทางไปสร้างรอยยิ้มให้กับอีกหลายครอบครัว (ของใช้ใหม่หรือสภาพดี ของอุปโภคบริโภค ยาและอุปกรณ์ดูแลสุขภาพ อาหารและของใช้สัตว์เลี้ยง  เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน) ร่วมบริจาคได้ที่นาราสิริ วิคตัวร์ กรุงเทพกรีฑา และนาราสิริ พหล – วัชรพล ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 นี้

#Sansiri #แสนสิริ #Everydaylifeisgood #ทุกวันชีวิตดี
#NoOneLeftBehind #แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร #เด็กทุกคนต้องได้เรียน #ThailandZeroDropout