หนึ่งในฉากที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในละคร “หนี้รักเกียรติยศ” สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ในเครืออาร์เอสกรุ๊ป อีพี 5 (23 มิภุนายน 2568) ที่ผ่านมา คือฉากที่ “เนื้อบุญ” รับบทโดย เดือนไปรมารัชตะ ระเบิดอารมณ์สุดขีด ทั้งตบ ทั้งด่า และถีบ “นิราอร” รับบทโดย “ชมพู อทิตา พยัคฆ์” คู่หมั้นของลูกชายที่เสียชีวิต ด้วยข้อกล่าวหาสุดเจ็บแสบว่า “เป็นดวงกินผัว” จนทำให้ลูกชายต้องมาตายจากไปอย่างไม่มีวันกลับ แม้จะเป็นแค่ฉากในละคร แต่คำว่า ดวงกินผัว ก็เป็นคำที่คนไทยคุ้นหู และมักถูกหยิบยกมาใช้ในเหตุการณ์เศร้าสลดที่เกี่ยวข้องกับความรัก โดยเฉพาะเมื่อลูกชายเสียชีวิตแล้วมีแฟนหรือภรรยาเข้ามาเกี่ยวข้อง
แล้วคำว่าดวงกินผัว คืออะไร ในมุมมองของความเชื่อนั้น “ดวงกินผัว” หรือที่เรียกในภาษาชาวบ้านว่า “หญิงกินผัว” มักหมายถึงผู้หญิงที่คบใครแล้วแฟน หรือคนรักต้องเจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ หรือถึงขั้นเสียชีวิต โดยเชื่อว่าเกิดจากชะตาหรือดวงชงกันกับคู่ครอง ส่งผลให้ฝ่ายชายเคราะห์ร้ายเสมอ แม้ทางวิทยาศาสตร์จะยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน แต่ในเชิงโหราศาสตร์และความเชื่อไทยโบราณ มักอธิบายว่า ผู้หญิงบางคนมีพื้นดวงแรง หรือมีดาวคู่ครองอยู่ในตำแหน่งอัปมงคล เช่น ดาวอังคาร (ดาวแห่งการทะเลาะ การสูญเสีย) เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรือนคู่ครอง ซึ่งอาจตีความได้ว่า หากใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงคนนั้น อาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับฝ่ายชาย
หากกล่าวในเชิงบริบทละคร ดวงกินผัว ถูกเปรียบเทียบในเชิงความสูญเสียที่แปรเปลี่ยนเป็นความเกลียด โดยเฉพาะในละคร หนี้รักเกียรติยศ ความสูญเสียของลูกชาย กลายเป็นชนวนที่ผลักให้ เนื้อบุญ กลายเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ไม่สามารถยอมรับความจริงได้ และต้องหาคนผิดมารองรับความเจ็บปวดใจ ซึ่ง นิราอร กลายเป็นแพะรับบาปที่ถูกตราหน้าว่าเป็นต้นเหตุ การกล่าวหาว่าเป็น ดวงกินผัว จึงไม่ใช่แค่คำด่า แต่เป็นการประณามรุนแรง ที่ตอกย้ำความเชื่อทางสังคมไทยโบราณ และเผยให้เห็นด้านมืดของตัวละครที่โศกเศร้าอย่างไร้ทางออก เพราะฉะนั้น ฉากดรามานี้ จึงไม่ใช่แค่การปะทะอารมณ์ระหว่างนักแสดงอย่าง “เดือน ไปรมา” และ “ชมพู อทิตา”เท่านั้นแต่ยังเป็นการนำเสนอความเชื่อที่ฝังรากลึกในสังคมไทย และตั้งคำถามสำคัญว่า การกล่าวโทษด้วยความเชื่อแบบนี้มีความยุติธรรมเพียงใด โดยเฉพาะกับคนที่สูญเสียไม่ต่างกัน
เรื่องราวกำลังเข้มข้น จะทวีความร้อนแรง และดรามาขึ้นเรื่อย ๆ ห้ามพลาดในละคร หนี้รักเกียรติยศออกอากาศทุกวันจันทร์–พฤหัสบดี เวลา 18.00 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 สามารถรับชมย้อนหลังที่แรกที่เดียวที่ TrueID ผ่าน 3 ช่องทางแอปพลิเคชัน, เว็บและกล่อง TrueID TV ดูฟรีทุกเครือข่าย
