- แสนสิริชูความสำเร็จกลยุทธ์ Strategic Partnership สานต่อความร่วมมือครั้งสำคัญอย่างยิ่งใหญ่กับมิตซุยฟุโดซังเอเชียดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) บริษัทในเครือของ มิตซุย ฟุโดซัง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น
- รุกพัฒนา 2 โครงการ JV ใหม่ ได้แก่ “คอนโดใหม่ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา บนย่านเจริญนคร” และ “เศรษฐสิริ เกรท วงแหวน–จตุโชติ” มูลค่า 9,500 ล้านบาท
- ตอกย้ำพันธมิตรแกร่ง จากความร่วมมือร่วมทุนพัฒนารวมทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่าสูงถึง 20,900 ล้านบาท (รวม 2 โครงการใหม่)
- สะท้อนความเชื่อมั่นของมิตซุยฟุโดซังเอเชียดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) ในแสนสิริ ผู้นำอสังหาฯ ยืนหนึ่งผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ที่โดดเด่นทั้งด้านคุณภาพ การออกแบบ ฟังก์ชั่น และบริการหลังการขาย

บริษัทแสนสิริจำกัด (มหาชน) (SIRI) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับแถวหน้าของประเทศไทยตอกย้ำความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ Strategic Partnership สานต่อความร่วมมือครั้งสำคัญอย่างยิ่งใหญ่กับบริษัทมิตซุยฟุโดซังเอเชียดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด (MFADT) พันธมิตรผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นโดยการผนึกกำลังครั้งนี้เป็นการเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อรุกพัฒนา 2 โครงการร่วมทุน (Joint Venture – JV) ใหม่มูลค่ารวมถึง 9,500 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามายกระดับมาตรฐานตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย 2 โครงการสำคัญของแสนสิริ ได้แก่ คอนโดมิเนียมใหม่วิวแม่น้ำเจ้าพระยาบนทำเลศักยภาพเจริญนครและโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมเศรษฐสิริเกรทวงแหวน–จตุโชติ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้สะท้อนชัดถึงความเชื่อมั่นที่พันธมิตรระดับโลกมีต่อศักยภาพของแสนสิริ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความได้เปรียบที่โดดเด่นในตลาด เพื่อส่งมอบโครงการคุณภาพสู่ผู้บริโภค
การประกาศความร่วมมือครั้งล่าสุดนี้ ถือเป็นการตอกย้ำสถานะ “พันธมิตรที่แข็งแกร่ง” หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงในโครงการร่วมทุนก่อนหน้าอย่าง นาราสิริ บางนา กม.10, บุราสิริ จตุโชติ และ เซลฟ์ บาย แสนสิริ ส่งผลให้ปัจจุบัน พอร์ตโครงการร่วมทุน (JV) ระหว่างแสนสิริและมิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) มีมูลค่ารวมสูงถึง 20,900 ล้านบาท (รวม 2 โครงการใหม่) โดยการผนึกกำลังทางธุรกิจในครั้งนี้ สะท้อนถึงการรวมจุดแข็งที่ลงตัวของแสนสิริ ในฐานะผู้นำอสังหาฯ ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี โดดเด่นด้านคุณภาพ, การออกแบบ, ฟังก์ชัน รวมถึงบริการหลังการขาย และประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของกลุ่มมิตซุย ฟุโดซัง ซึ่งจะนำมาผสานรวมกันเพื่อยกระดับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศไทย
เปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นปี 2026! กับ 2 โครงการใหม่
ภายใต้ความร่วมมือของแสนสิริและมิตซุยฟุโดซังเอเชียดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์)
คอนโดใหม่วิวแม่น้ำเจ้าพระยาบนย่านเจริญนครมูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท เป็นโครงการ Rare Item มีทางเข้าติดถนนเจริญนครที่ซอย 29/2 เจริญนคร เรียกได้ว่าเป็นทำเล Countdown Destination วิวแม่น้ำเจ้าพระยาย่านเจริญนครที่มีศักยภาพ ใกล้กับไอคอนสยาม รายล้อมด้วยโรงแรม 5 ดาว เดินทางสู่ใจกลาง CBD กรุงเทพฯได้สะดวก ด้วยการเชื่อมต่อทั้งรถยนต์, รถไฟฟ้า และเรือโดยสาร ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุนในทำเลที่มีศักยภาพเติบโตสูง เปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นปีหน้า
เศรษฐสิริเกรทวงแหวน–จตุโชติมูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากโครงการการแรกที่เป็นสไตล์ Art Deco ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ตั้งอยู่บนทำเลติดวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ฉลองรัช–ด่านจตุโชติ บ้านแต่ละหลังถูกออกแบบบนพื้นที่ดินขนาดใหญ่ 100–200 ตร.ว. ให้ความเป็นส่วนตัวสูง รองรับการอยู่อาศัยของครอบครัวที่ต้องการทั้งพื้นที่ใช้ชีวิตและพื้นที่พักผ่อนอย่างแท้จริง โดดเด่นด้วย พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ระดับ Luxury ที่เหนือกว่าโครงการทั่วไปในทำเลเดียวกัน
การร่วมทุนครั้งนี้คือหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนตามกลยุทธ์ Strategic Partnership ของแสนสิริ ในการขยายโอกาสการลงทุนเชิงรุกร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับแถวหน้า สิ่งที่ตอกย้ำความแข็งแกร่งและสถานะทางการเงินอันมั่นคงของ SIRI ได้อย่างชัดเจน คือ เสถียรภาพของผลประกอบการที่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดยล่าสุด ผลประกอบการ 9 เดือน (สิ้นสุด 30 กันยายน 2568) สามารถทำรายได้รวมได้ 23,670 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,029 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยไทย ซึ่งมาจากการดำเนินงานที่รอบคอบและแผนธุรกิจที่ยืดหยุ่นภายใต้สถานการณ์ที่ผันผวน
#Sansiri #SansiriNo1Brand #แสนสิริแบรนด์อันดับหนึ่ง
